จริงหรือนี่ ! ปี 60 ล้างประวัติแบล็กลิสต์ 3 แสน บัญชี

จริงหรือนี่ ! ปี 60 ล้างประวัติแบล็กลิสต์ 3 แสน บัญชี เครดิตบูโรเผยลูกหนี้หลุดแบล็กลิสต์เกือบ 7 แสนราย 2 ปียอดรวม 1.4 ล้านบัญชี มูลค่ารว...

จริงหรือนี่ ! ปี 60 ล้างประวัติแบล็กลิสต์ 3 แสน บัญชี


เครดิตบูโรเผยลูกหนี้หลุดแบล็กลิสต์เกือบ 7 แสนราย 2 ปียอดรวม 1.4 ล้านบัญชี มูลค่ารวมกว่า 3 แสนล้าน คาดลูกหนี้มีโอกาสกลับไปขอสินเชื่อใหม่ได้แค่ 6.7 หมื่นบัญชี ที่เหลือเป็นลูกหนี้สูงวัย สะดุดปัญหารายได้ไม่เพียงพอ ชี้ปี”60 ลูกหนี้แบล็กลิสต์จ่อออกเพิ่มอีก 3 แสนบัญชี มูลหนี้รวม 8.3 หมื่นล้าน

นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือเครดิตบูโร เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หลังจากที่มีประกาศของคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิต เรื่องอายุข้อมูลในการประมวลผลข้อมูลของบริษัทข้อมูลเครดิต และการส่งข้อมูลของสมาชิก สำหรับกลุ่มลูกหนี้ที่มีประวัติการค้างชำระหนี้เกิน 90 วัน และอยู่ในฐานข้อมูลของบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติครบ 8 ปีแล้ว จะถูกลบออกจากประวัติการค้างชำระหนี้ในระบบฐานข้อมูลเครดิต เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกหนี้กลับเข้าสู่การขอสินเชื่อสถาบันการเงินได้อีกครั้ง

โดยล่าสุดพบว่า ลูกหนี้ที่ถูกลบออกจากฐานข้อมูลเครดิตในช่วง 2 ปีแรก (นับจากเริ่มโครงการเมื่อไตรมาสแรกปี 2558 จนถึง พ.ย. ปี 2559) มีจำนวนทั้งสิ้น 1,384,690 บัญชี หรือคิดเป็นจำนวนลูกหนี้ที่ออกจากระบบแล้วเกือบ 7 แสนราย ขณะที่มีมูลหนี้ที่ถูกลบไปทั้งสิ้น 328,972 ล้านบาท

ทั้งนี้ จำนวนลูกหนี้ที่ถูกลบชื่อออกจากเครดิตบูโรจำนวนกว่า 1.3 ล้านบัญชีนั้น นายสุรพลกล่าวว่า มีโอกาสที่จะกลับเข้าสู่ระบบสถาบันการเงินเพื่อขอสินเชื่อใหม่ได้ประมาณ 67,683 บัญชี หรือคิดเป็นมูลค่า 11,095 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 5.5% จากลูกหนี้ที่ออกจากระบบทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม จำนวนลูกหนี้ที่กลับเข้าสู่ระบบ ถือว่ามีสัดส่วนน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนลูกหนี้ที่ออกจากระบบทั้งหมด เนื่องจากส่วนหนึ่งมาจากผู้กู้มีอายุมากแล้ว โดยกลุ่มนี้มีประวัติติดหนี้มาตั้งแต่ก่อนหน้าวิกฤตต้มยำกุ้งในปี 2540 ขณะที่ปัจจุบันรายได้ของคนในกลุ่มดังกล่าวก็ไม่เพียงพอในการชำระเงินคืนสถาบันการเงินได้ จึงทำให้ลูกหนี้กลุ่มนี้ขาดโอกาสในการกลับเข้าสู่ระบบสถาบันการเงินอีกครั้ง

ขณะที่ปัจจัยอีกส่วนหนึ่งมาจากการที่ธนาคารพาณิชย์ (แบงก์) หรือธนาคารของรัฐต่าง ๆ มีความเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อมากขึ้นในช่วง 1-2 ปีนี้ โดยเฉพาะผู้ที่เคยมีประวัติค้างชำระหนี้ติดอยู่ในเครดิตบูโร ทำให้ลูกหนี้กลุ่มนี้ยังไม่สามารถกลับเข้าสู่ระบบได้

“ตอนนี้แบงก์เข้มทุกแบงก์ ลูกหนี้ที่มีประวัติอยู่ที่แบงก์ไหนจะกลับไปขอสินเชื่อแบงก์เดิมก็ยากขึ้น ทำให้มีจำนวนลูกหนี้กลับเข้าสู่ระบบยังน้อย แต่ถามว่าลูกหนี้กลุ่มนี้มีโอกาสกลับเข้าสู่ระบบได้หรือไม่ ก็ยังมีโอกาส หากมีการปรับปรุงสถานะทางบัญชี หรือสถานการณ์การพิจารณาสินเชื่อเริ่มผ่อนคลายขึ้น กลุ่มนี้ก็จะมีโอกาสเข้าสู่ระบบได้อีกครั้ง” นายสุรพลกล่าวและในปี 2560 คาดว่าจะมีลูกหนี้ที่จะถูกลบออกจากเครดิตบูโรอีกราว 300,000 บัญชี หรือคิดเป็นมูลหนี้ที่จะออกจากระบบทั้งสิ้น 80,000 ล้านบาท

ที่มา:saraupdate

ติดตามข่าวอื่นๆ

0 comments

loading...